บทที่ 7 แต่งตั้งธรรมทายาท
ก่อนหน้าที่ท่านโพธิธรรมจะละทิ้งสังขารลา
จากโลกนี้ไป ท่านได้เรียกประชุมบรรดาศิษยานุศิษย์ 
ผู้ที่มีความรู้ทางธรรมและอาจได้รับการสืบทอดให้เป็นทายาท 
ผู้สืบสานการเผยแผ่วิถีธรรมอันคือธรรมชาติ 
ให้คงดำรงอยู่ต่อสืบไปในภายภาคหน้า 
ท่านโพธิธรรมจึงได้ถามขึ้นกลางที่ประชุมว่า "ธรรมที่แท้จริงมันคืออะไร" 
หากพวกท่านตอบได้ เราจะมอบบาตรและจีวรของตถาคตเจ้านี้ให้ 
เพื่อเครื่องหมายแห่งการทำหน้าที่ ในวิถีธรรมต่อไปสืบไปในภายภาคหน้า
ภิกษุ
นาม "เต๋า หู" ได้ตอบว่า "การไม่ยึดติดในคัมภีร์หรือแม้แต่ตัวอักษร 
แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความหมายที่แท้จริงในตัวอักษรนั้นเลย 
ธรรมชาติที่แท้จริงอยู่เหนือการยอมรับและอยู่นอกเหนือการปฏิเสธ" 
ท่านโพธิธรรมจึงได้พูดขึ้นว่า "เต๋า หู เธอได้หนังของฉันไป"
ต่อมา
ศิษย์ผู้มีอาวุโสเป็นคนที่สอง เป็นภิกษุณีรูปเดียวในที่ประชุมนี้ มีนามว่า 
"จิ้งที้" ได้กล่าวตอบว่า "ธรรมที่แท้จริง เหมือนดังพุทธะภาวะแห่งตถาคตเจ้า
 ที่ได้เห็นเพียงครั้งเดียวและจะเป็นการได้เห็นมันอยู่ตลอดไปเจ้าค่ะ" 
ท่านโพธิธรรมจึงได้พูดต่อภิกษุณีจิ้งที้ว่า "ที่เธอกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว 
เธอได้เนื้อของฉันไป"
ส่วนศิษย์คนที่สาม นามว่า "เต๋ายก" ได้ตอบว่า 
"ทุกสรรพสิ่งนี้ล้วนคือความว่างเปล่าตามธรรมชาติ 
ขันธ์ธาตุนั้นเป็นของว่างเปล่ามาแต่เดิม 
ก็ในธรรมชาติที่มันว่างเปล่าไร้ตัวตนอยู่อย่างนั้น นั่นแหละคือธรรม" 
ท่านโพธิธรรมได้พูดขึ้นมาว่า "เธอได้กระดูกของฉันไป"
ส่วนศิษย์คนที่
สี่ คือ เสินกวง เป็นผู้ซึ่งท่านโพธิธรรมได้เปลี่ยนชื่อให้ 
ตอนที่ท่านรับเป็นศิษย์ใหม่ๆว่า "ฮุ่ยเค่อ" 
เมื่อถึงลำดับที่ฮุ่ยเค่อจะต้องตอบคำถามว่าธรรมที่แท้จริงคืออะไร 
ฮุ่ยเค่อก็เอาแต่นิ่งหุบปากปิดปาก และเม้มปากของตนให้สนิทอยู่อย่างนั้น 
แล้วจ้องมาทางท่านโพธิธรรมโดยมิได้กล่าวอะไรออกมาเลย 
ท่านโพธิธรรมเมื่อเห็นฮุ่ยเค่อทำกริยาดังกล่าวและนั่งเงียบอยู่อย่างนั้นโดย
มิได้กล่าวพูดอะไรออกมา ท่านโพธิธรรมจึงพยักหน้ารับและพูดขึ้นมาว่า 
"ฮุ่ยเค่อ เธอได้ไขกระดูกของฉันไป"
และในเวลานั้นเอง 
ท่านโพธิธรรมจึงได้ส่งมอบบาตรและจีวร 
ซึ่งเป็นของตถาคตเจ้าที่ตนได้รับสืบทอดมาและครอบครองไว้นั้น 
ส่งมอบต่อให้กับฮุ่ยเค่อต่อหน้าที่ประชุมของศิษยานุศิษย์ 
และท่านโพธิธรรมก็ได้กล่าวให้โอวาทแก่ที่ประชุมนั้น โดยกล่าวว่า 
ศิษย์ทุกคนของท่านล้วนแต่เป็นผู้ที่มีสติปัญญาความรู้ 
ในที่นี้ไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มืดบอดไร้ซึ่งปัญญาอันรู้แจ้งเลย 
พวกเธอทั้งหลายก็ล้วนแต่มีความเป็นบัณฑิตพร้อมด้วยกันทั้งสิ้น 
พวกเธอจงนำประสบการณ์ของพวกเธอเหล่านี้ที่ขึ้นตรงต่อธรรมชาติ 
จงออกโปรดบรรดาสรรพสัตว์ผู้ยากไร้ 
พวกเธอจงดำรงตนตั้งมั่นในความเป็นธรรมชาติแห่งพุทธะนี้ 
และจงช่วยกันถ่ายทอดธรรมชนิดนี้ให้ออกไปอย่างแพร่หลาย 
อย่าให้มันขาดสายสูญสลายหายไป 
ส่วนฮุ่ยเค่อเธอเป็นศิษย์ผู้ที่มีปฏิภาณในการตอบคำถามของฉัน 
และเธอก็เป็นผู้ที่มีความเข้าใจในธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง 
เป็นผู้รู้แจ้งแทงตลอดในธรรมธาตุแห่งธรรมชาตินี้อย่างไม่เป็นที่สงสัย 
ก็ขอให้เธอจงทำหน้าที่ของเธอในการเป็นธรรมทายาทผู้สืบต่อจากฉัน 
การใดๆก็อย่าพึ่งเร่งรีบเพราะนับสืบต่อจากนี้ไป 
บ้านเมืองก็จะเกิดความวุ่นวาย ขอให้เธอจงเผยแผ่ธรรมในโอกาสที่เหมาะสม
ภาย
หลังต่อมาไม่นาน ท่านโพธิธรรมก็เสียชีวิตลง 
เพราะสาเหตุมาจากที่ท่านถูกผู้ไม่ประสงค์ดี 
ปองร้ายวางยาพิษในอาหารที่ท่านฉัน จนท่านล้มเจ็บป่วยลงและได้จากลาโลกนี้ไป 
เมื่อท่านมีอายุได้ 150 ปี
“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
“การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”
ครูสอนเซน 
อาจารยฺราเชนทร์ สิมะสุนทร

 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น