วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557

นิกายเซน หนังสือ "คำสอนเซน ภาคเซนในสายเลือด ปรมาจารย์ตั๊กม้อ"-บทที่ 36 พุทธะคือหน้าที่

บทที่ 36 พุทธะคือหน้าที่

คน ที่ไม่มีศรัทธาที่จะมาในทางธรรมชาติแห่งพุทธะ เป็นคนที่ยึดอยู่ในมิจฉาทิฐิ เปรียบเหมือนคนตาบอดที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นแสงสว่างที่แท้จริงเลย ถึงท่านจะอธิบายเรื่องความเป็นธรรมชาติแห่งพุทธะให้เขาฟัง แต่เมื่อเขาเหล่านี้ขาดศรัทธาแล้ว เขาจึงเปรียบเสมือนคนตาบอด ที่จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถเห็นแสงนั้นได้ ถึงจะอธิบายก็ไม่มีใจที่จะยอมรับฟังเรื่องธรรมชาติที่แท้จริงนี้ พวกเขาเหมือนคนมีกรรมที่มีเหตุและปัจจัย มาทำให้พวกเขาหันหลังให้กับธรรมชาติอันคือความจริงได้อย่างถาวร พวกเขาเหล่านี้จะต้องทนก้มหน้ารับกรรมที่พวกเขาได้กระทำไป อันเกิดจากทิฐิที่ผิดๆของพวกเขาทั้งหลาย บุคคลเหล่านี้ย่อมใช้ชีวิตไปด้วยความเป็นทาสแก่การกระทำของตนเอง หาความมีอิสระที่แท้จริงไม่ ความมีอิสระที่แท้จริงย่อมปรากฏแก่ ความเป็นธรรมชาติแห่งพุทธะนั่นเอง แต่เขาเหล่านี้ได้ทำเหตุและปัจจัยอันทำให้พวกเขา ไม่มีวันได้พบหนทางที่จะนำพาพวกเขาไปสู่สถานที่ที่มีแสงสว่างได้เลย เมื่อขาดศรัทธาเขาเหล่านี้จึงเป็นเพียงคนตาบอด ที่บอดอย่างถาวรแล้วเท่านั้น แต่บุคคลที่เห็นธรรมชาติของตนเองด้วยความมีศรัทธาเชื่อมั่น ต่อความจริงในความเป็นพุทธะ บุคคลพวกนี้ไม่จำเป็นต้องไปโกนหัวห่มผ้าเหลือง พวกเขาไม่ว่าจะอยู่ฐานะไหนประกอบอาชีพอะไร ก็ในเมื่อใจของพวกเขาเป็นพุทธะที่แท้จริงแล้ว เมื่อเขาคือพุทธะ พุทธะก็คือพวกเขา เขาอยู่ที่ไหนพุทธะก็อยู่ที่นั่น แต่คนที่ยังไม่เห็นความจริงของธรรมชาติ แล้วไปโกนหัวนุ่งห่มผ้าเหลือง พวกนี้เป็นเพียงพวกที่คลั่งไคล้หลงใหลความเป็นพุทธะ ในรูปแบบความเป็นอยู่ซึ่งเป็นเพียงเปลือกนอก ความเป็นพุทธะที่แท้จริงมิได้ต้องอาศัยอะไรกับอะไรเลย แต่ความเข้าใจอย่างแท้จริงซึ่งตรงต่อความเป็นจริงตามธรรมชาติ นั่นก็คือพุทธะแล้ว

เป็นเพียงเพราะเราเข้าไปยึดการปรากฏขึ้นแห่งภาวะ เป็นการเข้าไปยึดติดในรูปกาย จึงเกิดภาวะเคลื่อนไหวไปในทางทวิภาวะแห่งความเป็นคู่ เช่น ร้อนเย็น หิวกระหายและอิ่ม จึงเกิดเป็นมลทินแห่งตัณหา อุปาทาน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในความเป็นจริงตามธรรมชาติแห่งพุทธะ ธรรมชาตินั้นมันบริสุทธิ์โดยตัวมันเอง มันเป็นความบริสุทธิ์โดยพื้นฐานแห่งความเป็นไปตามธรรมธาตุ มันเป็นธรรมชาติที่ไม่อาจมีใครเข้ามาทำให้มันเศร้าหมองลงไปได้เลย มันเป็นความบริสุทธิ์มาแต่เดิมของมัน มันเป็นธรรมชาติแห่งความบริสุทธิ์ที่ปราศจากการเคลื่อนไหว ไปในทิศทางใดแห่งความมีตัวมีตนทั้งสิ้น ธรรมชาติมันจึงไม่หิวไม่อิ่ม ไม่อุ่นไม่เย็น ไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่รักไม่ชัง ไม่ดีไม่ชั่ว ไม่สุขไม่ทุกข์ จริงๆแล้วธรรมชาติมันไม่มีอะไรเลย มันเป็นธรรมชาติของมันอยู่อย่างนั้น เพราะมันมีแต่ความว่างเปล่า ไร้ความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตนตามธรรมชาติ เราจึงเรียกความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยของมันว่า "ความบริสุทธิ์" คือความที่มันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น ปราศจากสิ่งอื่นเข้ามาเจือปนปะปนกับมันได้ นี่คือความบริสุทธิ์ตามธรรมชาติแห่งพุทธะ เมื่อท่านเข้าใจความเป็นจริงเช่นนี้แล้ว ท่านปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามหน้าที่ของมัน ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ของมันตามความเป็นธรรมชาติอยู่อย่างนั้น ท่านก็จะพ้นจากการเกิดและการตาย ท่านก็จะเป็นอิสระเป็นนายเหนือความต้องการของตนเอง ซึ่งธรรมชาติแห่งพุทธะที่ท่านได้พบนี้ มันคือธรรมชาติแห่งความสงบสุขในทุกหนทุกแห่ง เป็นชีวิตที่มีความสุขอิสระอย่างแท้จริง จงปล่อยให้ธรรมชาติมันทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างนั้น นั่นแหละท่านคือพุทธะแล้ว





“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
“การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”

ครูสอนเซน
อาจารยฺราเชนทร์ สิมะสุนทร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น