| 
 
บทที่ 30 ธรรมชาติจำลอง
 ก็
ด้วยที่มันเป็นธรรมชาติ 
ที่ปราศจากความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตนของมันเองอยู่อย่างนั้นตามธรรมชาติ
ของมันเองอยู่แล้ว มันจึงมิใช่เป็นธรรมชาติที่มีความหมายถึง 
ความเป็นสิ่งสิ่งหนึ่ง เมื่อพวกคุณไม่เข้าใจในความหมายของธรรมชาติ 
ตามความเป็นจริงโดยสภาพของมันเอง ด้วยอวิชชาความไม่รู้ของพวกคุณเอง 
อาจพาคุณคิดไปว่า ธรรมชาตินี้มันต้องเป็นสิ่งสิ่งหนึ่งหรือภาวะหนึ่ง 
ที่มันประกอบไปด้วยคุณสมบัติต่างๆ อันทำให้ธรรมชาตินี้มีแต่ความว่างเปล่า 
ไร้ความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตนของมันอยู่อย่างนั้น ด้วยความเข้าใจผิดว่า
 ธรรมชาติมันคือสิ่งสิ่งหนึ่งภาวะหนึ่ง 
และด้วยความคาดคะเนเข้าใจผิดของคุณเอง 
พวกคุณจึงเอามืออันอยู่ไม่สุขของพวกคุณเอง 
เข้าไปยุ่งย่ามเข้าไปเป็นส่วนเกิน ในความเป็นธรรมชาติของมันอยู่อย่างนั้น 
ด้วยการฆาตกรรมความเป็นจริงตามธรรมชาติ ให้ตายสูญหายสูญสลายไป 
จากธรรมธาตุแห่งความเข้าใจในความเป็นจริง 
ที่อาจจะมีอยู่ในความเป็นตัวเป็นตนของพวกคุณเอง พวกคุณได้กระทำตนเป็นฆาตกร 
ลงมือฆ่าความเป็นจริงของพวกคุณเองด้วยความเข้าใจหลงผิด 
และพวกคุณก็ได้ฆาตกรรมธรรมชาติ ด้วยวิธีการลงมือผ่ามันออกเป็นส่วนๆ 
เพื่อศึกษาความเป็นไปในสภาพมัน ตามความเข้าใจผิดของพวกคุณ 
ด้วยที่พวกคุณคิดว่า มันจะต้องมีหลายๆสิ่งอันคือธรรมทั้งหลาย 
เข้ามาประกอบกันเพื่อเป็นเหตุปัจจัยให้ธรรมชาตินี้มันเกิดขึ้น 
ก็ด้วยกำลังหรือจำนวนปริมาณแห่งธรรมอันประกอบเข้ากันนี่เอง 
ที่มันจะต้องมีจำนวนมากพอจนเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ธรรมชาตินี้ 
มันเป็นธรรมชาติที่เด่นชัดเจนยิ่งขึ้นจนถึงขนาดที่พวกคุณ 
มีความพึงพอใจแล้วว่า การเกิดขึ้นแห่งธรรมชาติตามวิธีการที่พวกคุณเข้าใจนี้
 มันคือ "ธรรมชาติที่แท้จริง" แต่ด้วยความเป็นจริงตามธรรมชาติ 
ธรรมชาติมันก็คือธรรมชาติของมันอยู่อย่างนั้น 
มันเป็นธรรมชาติที่เป็นธรรมธาตุแห่งคุณลักษณะ 
ในความเป็นของมันเองมาอยู่อย่างนั้น "อยู่แล้ว" มันคือความเป็น "อยู่แล้ว" 
โดยไม่สามารถหาจุดเริ่มต้นและจุดจบแห่งมันได้ 
และมันก็มิใช่ภาวะที่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น 
ก็เพราะธรรมชาติมันเป็นของมันอยู่แบบนั้น "ในความเป็นธรรมชาติมันเอง" 
มันจึงมิใช่ภาวะโดยที่ใครจะสามารถ 
เอาความเป็นตัวตนของตัวเองเข้าไปอยู่ปะปนกับมันได้
 
 เพราะในความเป็น
ธรรมชาติที่แท้จริงนั้น มันเป็นธรรมชาติแห่งความว่างเปล่าที่แท้จริง 
ไม่สามารถมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือภาวะใดภาวะหนึ่ง 
แทรกตัวเข้าไปอยู่รวมกับธรรมชาตินี้ได้เลย มันจึงไม่มีอะไรกับอะไรทั้งนั้น 
มันจึงไม่ใช่อะไรกับอะไรทั้งนั้น 
มันเป็นธรรมชาติของมันแบบสมบูรณ์พร้อมโดยตัวมันเองอยู่แล้ว 
มันจึงมิใช่เกิดจากสิ่งใดๆเข้ามารวมกัน 
และเป็นเหตุปัจจัยทำให้ความเป็นธรรมชาตินี้เกิดขึ้นมาได้
 
 เมื่อมัน
เป็นธรรมชาติแบบนี้ของมันมาเองตั้งแต่ต้น 
ความเข้าใจผิดของพวกคุณและการปรุงแต่งไป ในการศึกษาพิจารณาเพื่อแยกแยะว่า 
อะไรเป็นอะไร ตามความเข้าใจผิดของคุณ มันจึงเป็นการจำลองธรรมชาติขึ้นมา 
มันจึงเป็นเพียงการทำให้ธรรมชาติ 
ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นของมันเองอยู่อย่างนั้นอยู่แล้ว 
กลายเป็นธรรมชาติที่เป็นตัวเป็นตนเป็นอัตตาขึ้นมา 
มันจึงหาใช่ธรรมชาติที่แท้จริงไม่ มันจึงเป็นเพียงจิตที่ปรุงแต่งไป 
ในความที่จะทำให้ธรรมชาติมันเกิดขึ้น เป็นภาวะตามความต้องการ 
ซึ่งเป็นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ของพวกคุณเองแต่เพียงเท่านั้น
 
 
 
 
 “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
 “การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”
 
 ครูสอนเซน
 อาจารยฺราเชนทร์ สิมะสุนทร
 | 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น