บทที่ 2 เซนในสายเลือด
เมื่อครั้งที่ฉันยังปฏิบัติธรรมฝึกฝนตน
เองอยู่ที่อินเดีย 
ท่านอาจารย์สอนให้ฉันรู้จักความเป็นตัวตนที่แท้จริงของฉันเอง 
ได้รู้จักหน้าตาที่แท้จริงของธรรมชาติดั้งเดิมแท้ 
ที่อยู่มากับตัวฉันเองโดยตลอดตั้งแต่ต้น 
อาจารย์ท่านได้มีความเมตตากรุณาถ่ายทอดธรรมชาตินั้น 
มาสู่เนื้อหาความเป็นธรรมชาติในความเป็นฉันเอง 
เพื่อให้ฉันได้ตระหนักว่าแท้จริงชีวิตซึ่งเป็นชีวิตจริงๆของฉันนั้นคืออะไร 
และควรดำเนินชีวิตนี้ไปในทางใดลักษณะใด หลังจากนั้นต่อมา 
ฉันจึงได้รู้อย่างแจ้งชัดแล้วว่า การเห็นธรรมชาติแห่งตนเองนั้นก็คือ เซน 
ความที่เป็นธรรมชาติแห่งการไม่เคยคิดถึงอะไรเลยก็คือ เซน 
ทุกสิ่งที่ฉันทำก็คือ เซน 
เพราะเซนก็คือความเป็นธรรมชาติที่ฉันเป็นอยู่นั่นเอง 
หน้าที่แห่งการชำระจิตใจอันแปดเปื้อนสกปรกโสมมของฉัน ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
 แต่หน้าที่แห่งการที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไปนี้ 
ก็สุดแล้วแต่โชคชะตาจะพาฉันไป
ฉันมาสู่ประเทศจีน 
ก็ด้วยเหตุผลเพียงประการเดียว 
คือการทำหน้าที่เผยแผ่ถ่ายทอดธรรมอันบริสุทธิ์ 
ซึ่งคือธรรมชาตินี้ให้ไปสู่แก่ชนรุ่นหลัง 
ด้วยเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะทำให้ความรู้ 
อันเป็นเหตุให้ได้ตระหนักรู้อย่างชัดแจ้งในธรรมชาติดั้งเดิมแท้นี้ 
มีการสืบทอดคงอยู่ตลอดไปแบบไม่ขาดสาย
ความเป็นเนื้อนาบุญแห่งการรักษาจิต
ใจของตน ไม่ให้เศร้าหมองเพื่อกั้นจิตไม่ให้ตกไปสู่ภพภูมิที่ลำบากนั้น 
ฉันไม่ค่อยเป็นห่วง 
เหล่าโพธิสัตว์ทั้งหลายในรุ่นก่อนๆก่อนหน้าที่ฉันจะมาสู่ที่นี่ 
ก็ได้ทำหน้าที่ของตนเอง ในการเผยแผ่พระธรรมคำสอนได้อย่างดีที่สุดแล้ว 
การบำเพ็ญบริจาคทานและการรักษาศีลในจีนนั้น 
เป็นไปด้วยความมีศรัทธาอย่างกว้างขวางในหมู่บรรพชิตนักบวช 
และอุบาสกอุบาสิกาผู้ที่มีความตั้งใจมั่นยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง 
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ฉันรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก 
และเป็นเหตุปัจจัยเดียวที่ทำให้ฉันมาเหยียบแผ่นดินนี้ 
ก็คือความที่ไม่มีใครเลยสักคนเดียว 
ที่รู้จักคำสอนอันเป็นแก่นแท้ของตถาคตเจ้าอันคือธรรมชาตินี้ 
ไม่มีใครสักคนที่รู้จักความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงของตนเองเลย 
ทุกคนเอาแต่ใฝ่บุญ 
ซึ่งเป็นการสร้างเหตุปัจจัยชั่วคราวแบบไม่ยั่งยืนแต่เพียงเท่านั้น 
แท้จริงแล้วความเป็นมนุษย์ ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าชีวิตและความตาย 
ที่มันยืนรอเราอยู่เบื้องหน้า 
ชีวิตที่ก่อเกิดเป็นอยู่และกำลังดำเนินไปอยู่นั้น 
มันเป็นชีวิตที่เสมือนแขวนไว้อยู่บนเส้นด้าย 
เมื่อเส้นด้ายซึ่งมีเพียงสภาพอันเปราะบางนั้นขาดลง 
ก็ทำให้เราพลัดตกลงไปสู่ภพภูมิต่างๆ 
ที่รอการเกิดใหม่อยู่เบื้องหน้าซึ่งเป็นหนทางที่ยากลำบาก
ความเป็น
ทุกข์เพราะการไปเกิดในสังสารวัฏอันนับไม่ถ้วนนั้น 
ทำให้ต้องเร่งรีบย้อนกลับมามองดูตนเองว่า 
เสี้ยวเวลาแห่งชีวิตที่เหลืออยู่อันน้อยนิดนั้น 
เราควรที่จะดำเนินชีวิตไปด้วยความไม่ประมาทอย่างยิ่ง 
ไม่ประมาทด้วยการใฝ่หาประโยชน์อันสูงสุด 
นำมาสู่ชีวิตอันมีค่าประเสริฐยิ่งของพวกเรา อันจะทำให้เราพ้นออกมาจากพงหนาม
 ที่เราได้เหยียบย่ำไปในที่รกชัฏแห่งวัฏสังสารการเวียนว่ายตายเกิด 
ด้วยอำนาจแห่งความโง่เขลาของเราเอง
เมื่อฉันมาที่นี่ผู้เดียว 
ฉันจึงเป็นอาจารย์แต่ผู้เดียวที่สามารถสั่งสอนพวกเธอได้ 
ฉันได้รับวิธีการใดมาจากอาจารย์ของฉัน ฉันก็จะสอนพวกเธอไปแบบนั้น 
คำเทศนาที่พรั่งพรูออกมาจากหัวใจแห่งพุทธะของฉัน ที่พวกเธอได้ตั้งใจฟังนั้น
 มันเป็นคำสอนที่ล้วนออกมาจากสายเลือดแห่งความเป็นเซนของฉันเอง 
มันเป็นเลือดทุกหยดซึ่งคือประสบการณ์ในชีวิตของฉันทั้งชีวิต 
และเลือดแห่งเซนนี้ ก็นำพาฉันมาที่นี่เพื่อมาเป็นครูสอนพวกเธอโดยเฉพาะ 
ก็ทั้งร่างกายและจิตใจของฉันทั้งหมดนี่แหละ คือเซน คือธรรมชาติแห่งเซน 
พวกเธอทั้งหลายล้วนอย่าได้มีความวิตกกังวลใดๆเลย 
จงโปรดมอบความไว้วางใจนั้นหยิบยื่นมาให้แก่ฉัน 
ในฐานะที่ฉันเป็นอาจารย์ผู้ชี้หนทางอันสว่างให้แก่พวกเธอ 
ธรรมชาติที่ฉันตั้งใจจะมาถ่ายทอดให้กับพวกเธอนี้ 
ล้วนเป็นธรรมชาติอันสืบทอดมาโดยตรงจากองค์พระศาสดา 
อันจะทำให้พวกเธอไม่มีวันได้หลงออกไปจากหนทางที่แท้จริงนี้ได้อีก 
และมันจะทำให้พวกเธอได้ทำหน้าที่ของพวกเธอเองได้อย่างถูกต้อง 
และด้วยภาระหน้าที่อันสาหัสสากรรจ์ ฉันก็จะใช้ความอดทนและรอคอย 
ต่อความเป็นไปใน "การนับหนึ่ง" เพื่อให้ถึงความสมบูรณ์พร้อมในวันข้างหน้า 
ฉันเป็นเพียงฐานะตัวแทนแห่งกลีบเดียวของดอกไม้ดอกนั้น กาลเวลาและเหตุปัจจัย
 ในการลงมาทำหน้าที่ของเหล่าโพธิสัตว์ทั้งหลาย ที่พวกเขาเหล่านี้ 
"ผูกใจไว้" ด้วยความศรัทธายิ่งต่อพระตถาคตเจ้า 
การสืบสายธรรมของเหล่าโพธิสัตว์ทั้งหลายนี้ 
ก็จะเป็นไปอย่างบริบูรณ์พรั่งพร้อมในวันข้างหน้า 
เมื่อกลีบดอกไม้รวมได้ครบหกกลีบ และดอกไม้นั้นได้ผลิบานออกมา 
มันจึงเป็นนิมิตหมายถึงเมล็ดพันธุ์พืชแห่งพุทธะอันจำนวนมากมาย 
ที่สามารถแพร่กระจายเจริญเติบโต กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ไปทั่วดินแดนแห่งจีนนี้ 
อันสามารถเติบโตเป็นร่มเงาที่พึ่งให้แก่พุทธศาสนิกชน 
ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาทั้งหลายในรุ่นหลังๆ 
ให้เข้ามาพึ่งพิงพักพิงตลอดสืบไป
“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
“การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”
ครูสอนเซน 
อาจารยฺราเชนทร์ สิมะสุนทร

 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น